ประกาศสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเรื่อง การขายทอดตลาดพัสดุชำรุดเสื่อมสภาพ จำนวน ๗๗๐ รายการ เอกสารแนบ
ด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติมีความประสงค์จะขายทอดตลาดพัสดุชำรุดเสื่อมสภาพ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๗๗๐ รายการ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
เงื่อนไขการขายทอดตลาด มีดังนี้
๑. การขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นการขายทอดตลาดแบบเหมารวม และจะขายโดยวิธีการประมูลด้วยวาจา ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ๗% แล้ว
๒. ผู้เสนอราคาจะต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่นที่เข้ามาเสนอราคาซื้อพัสดุชำรุดครั้งนี้
๓. ผู้เสนอราคาที่เข้าเสนอราคา กรณีเป็นบุคคลธรรมดาให้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีเป็นนิติบุคคลให้นำสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่ออกให้ไม่เกิน ๓๐ วัน นับถึงวันประกาศขายทอดตลาดพัสดุชำรุดนี้พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีเป็นตัวแทนต้องนำหนังสือมอบอำนาจของนิติบุคคลนั้น มาแสดง ณ วันขายทอดตลาด
๔. ราคาเริ่มต้นของการขายทอดตลาด เริ่มต้นที่ ๔๖,๔๒๘ บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
๕. ในวันขายทอดตลาด ผู้เข้าเสนอราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดจำนวน ๕,๐๐๐.๐๐ บาท (ห้าพันบาทถ้วน)
๖. กรณีที่ผู้เข้าเสนอราคาไม่ได้มาดูพัสดุในวันและเวลาที่กำหนดเป็นผู้ชนะการประมูล ให้ถือว่า ผู้เสนอราคารายนั้นยอมรับสภาพพัสดุที่ประมูลได้นั้น โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
๗. การเสนอราคา ผู้เสนอราคาเสนอราคาด้วยวาจา และเสนอราคาเป็นสกุลเงินบาทเพียงอย่างเดียว โดยเสนอราคาเพิ่มขึ้นครั้งละไม่น้อยกว่า ๕๐๐.๐๐ บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน)
๘. กรณีที่คณะกรรมการจำหน่ายพัสดุเห็นว่า ราคาที่ผู้เสนอราคาได้เสนอราคาแล้ว แต่ราคานั้นยัง ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนด คณะกรรมการฯ อาจถอนพัสดุนั้นออกจากการขายทอดตลาดได้
๙. ผู้เสนอราคาย่อมพ้นความผูกพันในราคาซึ่งตนเสนอ เมื่อมีผู้เสนอราคารายอื่นเสนอราคาที่สูงกว่า หรือเมื่อได้มีการถอนทรัพย์สินรายการนั้นจากการขายทอดตลาด ผู้เสนอราคาก็พ้นความผูกพันเช่นเดียวกัน
๑๐. ในระหว่างการเสนอราคาพัสดุ เมื่อการเสนอราคาหยุดนิ่ง ๓๐ วินาที ประธานกรรมการจำหน่ายพัสดุจะนับ ๑ – ๓ หากไม่มีผู้เสนอราคารายใดเสนอราคาสูงกว่า การขายทอดตลาดจะสิ้นสุด เมื่อประธานกรรมการฯ นับ ๑ – ๓ และขานชื่อผู้เสนอราคาสุดท้าย ให้ถือว่าผู้เสนอราคารายนั้นเป็น ผู้ชนะการประมูลพัสดุรายการนั้น
๑๑. ผู้ชนะการประมูลจะต้องจ่ายเงินสดทันที กรณีที่ผู้ชนะการประมูลไม่สามารถชำระเงินสดใน คราวเดียวได้ ให้วางเงินสดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของราคาที่ประมูลได้ ส่วนที่เหลือต้องชำระให้ครบถ้วนภายใน ๓ วันนับตั้งแต่วันที่ประมูลได้ หากไม่ชำระให้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จะถือว่าสละสิทธิ์ สำนักงานฯ จะริบเงินที่วางไว้แล้วจะดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ต่อไป
๑๒. ผู้ชนะการประมูลจะต้องรับพัสดุนั้นไปจาก สำนักงานฯ ให้เสร็จสิ้นภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน หากล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าว สำนักงานฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นได้
๑๓. ปัญหาอุปสรรค หรือผลเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นขณะทำการขนย้าย ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการขนย้ายพัสดุ ผู้ชนะการประมูลเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งสิ้นโดยไม่มีข้อผูกพันกับ สำนักงานฯ และคณะกรรมการฯ แต่อย่างใด
๑๔. การดำเนินการในการโอนกรรมสิทธิ์ ตลอดจนค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ โอนกรรมสิทธิ์ ของพัสดุที่ขายทอดตลาด ผู้ประมูลได้ เป็นผู้ชำระเองทั้งสิ้น (ถ้ามี)
๑๕. สำหรับผู้เสนอราคาที่ไม่ชนะการประมูล สามารถขอรับหลักประกันคืนได้ภายหลังการขายทอดตลาดสิ้นสุด
กำหนดดูพัสดุ
วันศุกร์ ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ – ๐๙.๔๐ น. ณ ห้องเก็บของ B๐๙ ชั้นใต้ดิน อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ เลขที่ ๑๑๓ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
กำหนดการขายทอดตลาด
วันศุกร์ ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๔๑ น. ณ ห้องประชุม ๑๒๗/๑ อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ เลขที่ ๑๑๓ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
๑. ลงทะเบียนและวางหลักประกันเข้าร่วมการเสนอราคา เวลา ๐๙.๔๑-๑๐.๐๐ น.
๒. เริ่มการขายทอดตลาด เวลา ๑๐.๐๑ น. เป็นต้นไป
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่งานพัสดุ ห้อง ๑๑๕ ชั้น ๑อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ๑๑๓ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ๑๒๑๒๐ ระหว่างวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ถึง วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๓๐ น. ถึง ๑๖.๓๐ น. (ในวันทำการของสำนักงานฯ) หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข๐ ๒๕๖๔๖๗๐๐ ต่อ ๓๑๑๑ ,๓๑๑๕ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.biotec.or.th และ www.nstda.or.th
ประกาศ ณ วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
(นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล)
ผู้อำนวยการ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ