เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน“มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2564 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมี ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศ.นพ.ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. เอกอัครราชทูตจากประเทศเดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่นและรัสเซีย ผู้แทนท่านทูตจากสหราชอาณาจักร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. เข้าร่วม
“มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” เป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Art Science Innovation and Creative Economy)” โดยไฮไลท์ของงาน คือการจัดแสดงงานที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม “BCG Model : Bio – Circular – Green Economy” และเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (1st BCG Science Fair in SEA) ที่จุดประกายความคิด สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG
โดยปีนี้ ไบโอเทค นำผลงานวิจัยร่วมจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ดังนี้
ผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการแพทย์
1.การพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด 19 แบบพ่นจมูก โดยไบโอเทคได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แบบพ่นจมูก ชนิด Adenovirus-based ซึ่งผ่านการทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในหนูทดลองเรียบร้อยแล้ว พบว่ามีประสิทธิภาพต่อการคุ้มกันโรคที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ได้จะผลักดันให้เป็นวัคซีนต้นแบบป้องกันโรค COVID-19 สามารถนำไปทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครต่อไป
2.ชุดตรวจโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว “COXY-AMP” ซึ่งเป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยนำเอาเทคนิคแลมป์ (LAMP) มาใช้ร่วมกับสีบ่งชี้ปฏิกิริยา Xylenol Orange หรือ XO เพื่อให้สามารถอ่านผลการตรวจได้ด้วยตาเปล่า มีความไว ความจำเพาะและความแม่นยำสูง
3.ชุดตรวจภูมิคุ้มกันโควิด “COVYD-19 Ab test kit (ELISA)” สำหรับตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันโควิด-19 รวดเร็ว แม่นยำ โดยใช้เทคนิค PTA-ELISA ที่สามารถตรวจแอนติบอดีต่อเชื้อโรคที่มีความไวและความแม่นยำสูง มีราคาถูก สามารถตรวจหลายตัวอย่างได้พร้อมกัน
ผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร
1. เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชโดยระบบ bioreactor ซึ่งเป็นวิธีการขยายพันธ์พืชที่ช่วยร่นระยะเวลาในการผลิตต้นอ่อน ลดต้นทุน แรงงาน รวมถึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาการขยายพันธุ์พืชเศรษฐกิจไทยแบบก้าวกระโดดได้ในอนาคต
2. ข้าวสายพันธุ์ใหม่ ได้แก่ ข้าวเหนียวพันธุ์หอมนาคา ข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่รสชาติดี เป็นข้าวเหนียวที่ได้รับสมญานามว่า “ข้าวเหนียวสะเทือนน้ำสะเทือนบก” ที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีและให้ผลผลิตสูง สามารถทนต่อโรคข้าวชนิดต่างๆ ได้อย่างดี เช่น โรคไหม้และขอบใบแห้ง ซึ่งเป็นโรคข้าวสำคัญที่เกิดขึ้นได้บ่อยของประเทศไทย เป็นความหวังใหม่แก่ชาวนาในยุคที่สภาพอากาศแปรปรวน และ ข้าวเจ้าพันธุ์หอมจินดา ที่มีลักษณะเมล็ดมีกลิ่นหอม นุ่ม ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรง ทนต่อน้ำท่วมฉับพลัน ไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 838 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกได้แทบทุกพื้นที่ แต่เหมาะกับภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน จะให้ผลผลิตดีที่สุด
3.ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช ที่ผลิตจากจุลินทรีย์หรือสารที่สกัดจากจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ อาทิ ไวรัส NPV ราบิวเวอเรีย โปรตีนจากแบคทีเรีย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค สามารถนำไปใช้ทดแทนสารเคมีอันตรายที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศได้
นอกจากนี้ภายในงานยัง มี 9 นิทรรศการหลักของงาน ได้แก่ 1) นิทรรศการเทิดพระเกียรติ (Royal Pavilion) 2) นิทรรศการหมื่นจินตนาการ ล้านความรู้ (Science Fiction Fun & Knowledge) 3) นิทรรศการโครงร่างสร้างเรื่อง (Skeleton) 4) นิทรรศการหนึ่งเรียบง่าย หลายคุณอนันต์ (Simple Machine) 5) นิทรรศการดินแดนผักและผลไม้ (Fruit and Veggie Land) 6) นิทรรศการโลกดิจิทัลไร้พรมแดนกับเทคโนโลยี 5G (Experience the Limitless Life with 5G) 7) นิทรรศการภารกิจข้ามดวงดาว (Space Odyssey) 8) นิทรรศการ Maker Space : สู่นวัตกรรมเพื่ออนาคต (Maker Space: Make the Future) และ 9) นิทรรศการภาพถ่ายนานาชาติ “จากท้องนทีสู่ห้วงสมุทร: สายน้ำกับสายสัมพันธ์ของชีวิต” (International Photo Exhibition on “River and Ocean: Connecting Water to Life”) ที่พร้อมมอบความรู้และกิจกรรมต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจ โดยงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2564 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9–19 พฤศจิกายน2564 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ ที่ผสมผสานระหว่างการเข้าชมงานในงาน หรือเลือกรับชมแบบออนไลน์ได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ www.facebook.com/nstfairTH
