ไบโอเทค สวทช. ร่วมเสิร์ฟ “ข้าวหอมสยาม 2” ในกิจกรรม “งานวิจัยกินได้กับ สวทช.” ที่บูทกระทรวง อว. ในงานกาชาดประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมออกบูธใน “งานกาชาดประจำปี 2568” ณ สวนลุมพินี โดยมีผู้บริหาร นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. พร้อมด้วย ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ ดร.วรวรงค์ รักเรืองเดช และ ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการ สวทช. เข้าร่วมกิจกรรม “สอยดาว” ภายในบูท กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมร่วมมอบของรางวัลให้แก่ผู้โชคดีอย่างเป็นกันเอง สร้างสีสันและบรรยากาศสนุกสนานให้กับผู้เข้าร่วมงาน

ไฮไลต์ของ สวทช. ในบูทกระทรวง อว. ในงานกาชาดประจำปี 2568 คือการนำเสนอ “การเสิร์ฟงานวิจัยกินได้” ผ่านเวิร์กชอป “ข้าวหอมสยาม2 x ข่เจียวโอเมก้าสูง” ที่นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาผสานในเมนูอาหารคุ้นเคยของคนไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมชิม และร่วมบริจาคเงิน เพื่อนำไปสมทบทุนสภากาชาดไทย โดยกิจกรรมได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน

เมนูพิเศษ “ข้าวหอมสยาม 2 x ไข่เจียวโอเมก้าสูง” สร้างกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณงานกาชาด ชวนให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสเสน่ห์ของงานวิจัยไทยผ่านอาหารจานคุ้นเคยอย่างใกล้ชิด

ข้าวหอมสยาม 2 เป็นผลงานวิจัยของ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. โดยทีมวิจัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพพืชและการเกษตรแบบแม่นยำ ซึ่งพัฒนาขึ้นจากการวิจัยพัฒนาด้านพันธุศาสตร์ การปรับปรุงพันธุ์ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ ที่พัฒนามาตั้งแต่ปี​ 2565 จนถึง​ปัจจุบัน​ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และหน่วยงานพันธมิตร โดยเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง ข้าวเจ้าหอมพันธุ์ใหม่ของไทย ที่ตอบโจทย์ทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และความมั่นคงทางอาหารของประเทศ

ข้าวหอมสยาม 2 มีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่

– มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คุณภาพการบริโภคดี หอม นุ่ม อร่อย

– ให้ผลผลิตสูง เหมาะกับการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์

– ต้านทานโรคและแมลง ช่วยลดการใช้สารเคมี

– ทนต่อสภาพแวดล้อมและความแปรปรวนของภูมิอากาศ

ส่วนไข่โอเมก้าสูง มาจากผลงานวิจัยของ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. ร่วมกับ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พัฒนาสารอาหารเสริมในรูปแบบของเหลวสำหรับแม่ไก่ ช่วยเพิ่มปริมาณกรดไขมันดีชนิดดีเอชเอ (DHA) ในไข่ไก่ได้มากกว่า 3 เท่าหรือราว 120 มิลลิกรัมต่อฟอง จึงเป็นอีกทางเลือกของอาหารสุขภาพสำหรับผู้บริโภค พร้อมช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้แก่เกษตรกรที่ผลิตไข่ไก่โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าว

นี่คือการเชื่อมโยง งานวิจัยจากห้องแล็บสู่จานอาหารของประชาชน อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสะท้อนให้เห็นว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่เพียงสร้างความรู้ แต่ยังสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคง และความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรไทยได้อย่างแท้จริง ตอกย้ำบทบาทของ สวทช. ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคมไทยอย่างยั่งยืน

การเข้าร่วมงานกาชาดในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่ สวทช. ได้นำผลงานวิจัยและนวัตกรรมออกจากห้องปฏิบัติการ มาถ่ายทอดสู่สาธารณะในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้จริง ให้ประชาชนได้เห็นและสัมผัสถึงคุณค่าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว

สำหรับงานกาชาด บูทกระทรวง อว. (หมายเลข 3.22) จะมีหน่วยงานในสังกัดมาร่วมจัดงานทุกวันตั้งแต่วันนี้ – 21 ธันวาคม 2568 เวลา 11.00 – 22.00 น. ณ สวนลุมพินี