BIOTEC

ทีมวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้ง

ข้อมูลเกี่ยวกับทีมวิจัย

ทีมวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้ง  กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสัตว์น้ำแบบบูรณาการ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐสองหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการวิจัย พัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ โดยมุ่งเน้นการคัดเลือกสายพันธุ์กุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) และจัดเป็น “ศูนย์ผสมและคัดเลือกสายพันธุ์” (Nucleus Breeding Center ; NBC)


การพัฒนาสายพันธุ์กุ้งเป็นการประสานกันระหว่างหน่วยงาน 3 หน่วย คือ ด่านกักกันโรค (Quarantine) ศูนย์ผสมและคัดเลือกสายพันธุ์ (NBC) และศูนย์เพิ่มจำนวนพ่อแม่พันธุ์ (BMC) ในการพัฒนาสายพันธุ์กุ้งกุลาดำเริ่มต้นโดยการนำกุ้งกุลาดำจากธรรมชาติ (W) อย่างน้อย 50 สายพันธุ์มาผสมไขว้กันเพื่อหาลักษณะที่ต้องการ เช่น การเจริญเติบโต การต้านทานโรคหรือลักษณะอื่นๆ จนได้ลูกกุ้งรุ่นแรก (FO) ทำการเลี้ยงลูกกุ้งรุ่นดังกล่าวจนเป็นพ่อแม่พันธุ์ในด่านกักกันโรค แล้วจึงนำไปผลิตลูกกุ้งรุ่น F1 ซึ่งเป็นกุ้งที่ปลอดเชื้อจำเพาะ (specific pathogen free; SPE) หลังจากนั้นจึงส่งลูกกุ้งรุ่น F1 ไปยังศูนย์ผสมและคัดเลือกสายพันธุ์ (NBC) เลี้ยงจนกุ้งโตเป็นพ่อแม่พันธุ์แล้วจึงทำการผสมและคัดเลือกสายพันธุ์ที่ต้องการ ศูนย์ฯดังกล่าวจะส่งลูกกุ้งที่ผ่านการคัดเลือกที่ดีที่สุด 2 ครอบครัว (F2) ไปยังศูนย์เพิ่มจำนวนพ่อแม่พันธุ์ (BMC) ศูนย์ฯนี้จะเลี้ยงกุ้งจนโตเป็นพ่อแม่พันธุ์แล้วจึงนำพ่อแม่พันธุ์ดังกล่าวไปผลิตนอเพลียสและลูกกุ้งระยะโพสต์ลาวาหรือกุ้งพี (postlarvae; PL) เพื่อส่งต่อให้เกษตรกรต่อไป สถานที่ตั้งของหน่วยงานทั้ง 3 หน่วยนี้แยกออกจากกัน เพื่อประโยชน์ในการจัดการ การป้องกันและควบคุมการระบาดโรค

วิสัยทัศน์

– เป็นศูนย์กลางระดับโลกในการคัดเลือกสายพันธุ์กุ้งกุลาดำและรวมถึงกุ้งเขตร้อนชนิดอื่นๆ ในอนาคต
– เป็นศูนย์วิจัยกุ้งเขตร้อนระดับนานาชาติ มุ่งเน้นการวิจัยที่เกี่ยวกับการคัดเลือกพันธุกรรม (genetic selection) เช่น สรีรวิทยาการสืบพันธุ์ (reproductive physiology) ลักษณะที่แสดงออกในระดับยีนส์และระดับโปรตีน (genomic and proteomic expression) และอื่นๆ

วัตถุประสงค์

– เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษา วิจัย และพัฒนาสายพันธุ์กุ้งกุลาดำสำหรับประเทศไทย
– เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐาน และเทคโนโลยีประยุกต์ ที่จะเสริมงานวิจัย การพัฒนานวัตกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการบริการวิชาการด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ
– เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สู่เกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมการเกษตร
– เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทย

ส่วนงานต่างๆ ภายในหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ

หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ แบ่งงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนงานภายในเขตปลอดเชื้อ (Biosecure) และ ส่วนงานภายนอกเขตปลอดเชื้อ

เขตปลอดเชื้อ

เป็นพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 130 เมตร ยาว 275 เมตร พื้นที่ทั้งหมดล้อมรอบด้วยรั้วคอนกรีตสูง 1.5 เมตร ในเขตปลอดเชื้อจะมีการควบคุมการผ่านเข้าออกของบุคคลและสัตว์พาหะต่างๆ อย่างเข้มงวด พนักงานที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว ต้องอาบน้ำ เปลี่ยนชุดปฏิบัติงานภายในที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อกุ้ง เนื่องจากกุ้งที่เลี้ยงในเขตปลอดเชื้อนี้ได้ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าปลอดเชื้อก่อโรคจำเพาะ (Specific pathogen free)

ส่วนงานภายในเขตปลอดเชื้อ

อาคารเพาะฟัก เป็นอาคารสำหรับเตรียมความพร้อมพ่อแม่พันธุ์ ประกอบด้วยห้องผสมเทียม ห้องพ่อแม่พันธุ์ ห้องวางไข่ และ ห้องพักไข่ สามารถรองรับพ่อแม่พันธุ์กุ้งได้ 480 ตัว ต่อรอบการผลิต
อาคารอนุบาลลูกกุ้ง เป็นอาคารสำหรับอนุบาลลูกกุ้งตั้งแต่ระยะนอเพลียสถึงระยะโพสต์ลาวา โดยนอเพลียสเพียงบางส่วนจากแม่พันธุ์แต่ละตัวจะถูกนำมาอนุบาลต่อเป็นระยะโพลต์ลาวา เพื่อเลี้ยงต่อไปเป็นพ่อแม่พันธุ์
อาคารเพาะเลี้ยงไดอะตอม เป็นอาคารสำหรับเพาะเลี้ยงไดอะตอมเพื่อเป็นอาหารลูกกุ้งวัยอ่อนโดยชนิดหลักที่เพาะเลี้ยง ได้แก่ Thalassiosira sp.
อาคารอาร์ทีเมีย เป็นอาคารสำหรับการเพาะฟักไข่อาร์ทีเมีย เพื่อควบคุมและลดการปนเปื้อน หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อลูกกุ้ง เช่น แบคทีเรียกลุ่มวิบริโอ (Vibrio spp.) ให้มากที่สุด
อาคารเพาะเลี้ยงเพรียงทราย (ไส้เดือนทะเล) เป็นอาคารสำหรับการเพาะเลี้ยงเพรียงทรายซึ่งเป็นอาหารสดที่จำเป็นสำหรับพ่อแม่พันธุ์กุ้ง อาคารเพาะเลี้ยงนี้ออกแบบสำหรับการเพาะเลี้ยงเพรียงทรายชนิด Perinereis nuntia และเพรียงทรายเขตร้อนอื่น ๆ อย่างครบวงจร ภายใต้การจัดการและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด (SPF)
บ่อเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์กุ้ง :
ระยะเริ่มแรก : เป็นอาคารสำหรับเลี้ยงลูกกุ้งจากระยะโพสต์ลาวา 15 (พี15) จนถึง 1 กรัม แล้วจึงทำเครื่องหมายบนกุ้งแต่ละตัวด้วยการฉีดสีพลาสติกที่มองเห็นได้ (visible implanted elastomer) เพื่อให้สามารถจำแนกครอบครัวกุ้งแต่ละตัวได้ในภายหลัง ในขณะเดียวกันก็จะตรวจสอบลักษณะครอบครัวของกุ้งเหล่านี้โดยเทคนิค microsatellite maker ร่วมด้วย
ระยะต่อมา : กุ้งที่ฉีดสีเพื่อแยกครอบครัวแล้ว จะถูกส่งไปเลี้ยงรวมกันในบ่อซึ่งเป็นบ่อที่อยู่ภายในอาคารปิด มุงหลังคาด้วยกระเบื้องใส ระยะเวลาการเลี้ยงกุ้งจนเป็นพ่อแม่พันธุ์จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในระหว่างการเลี้ยงจะทำการย้ายกุ้งไปลงบ่อใหม่ 2-3 ครั้ง เนื่องจากบ่อเดิมมีของเสียสะสมเพิ่มมากขึ้นและเพื่อเป็นการลดความหนาแน่นของกุ้ง

ส่วนงานภายนอกเขตปลอดเชื้อ

อาคารสำนักงานและห้องปฏิบัติการ : อาคารสำนักงาน ประกอบด้วย ห้องประชุม ห้องทำงานและห้องปฏิบัติการ โดยห้องปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ ทำหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ การตรวจวินิจฉัยโรคสัตว์น้ำ รวมทั้งมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานวิจัยต่างๆ ในทางชีววิทยาโมเลกุล (molecular biology)
หอพัก : รองรับการเข้าพักอาศัยของพนักงานและบุคลากรรวมทั้งแขกผู้มาเยือน หอพักของหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วยห้องพักขนาดต่างๆ ห้องรับประทานอาหาร ห้องออกกำลังกาย และห้องสันทนาการ

ระบบน้ำ

น้ำเค็มใช้ภายในหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ สูบมาจากทะเลห่างจากฝั่ง 400 เมตร เข้ามาตกตะกอนในบ่อตกตะกอนที่ 1 สูบน้ำเฉพาะส่วนใสด้านบนไปยังบ่อตกตะกอนที่ 2 สูบผ่านระบบกรองทรายแบบไหลย้อนขึ้น (Upflow sand filter) และผ่านถังกรองทรายแรงดันสูง (pressure sand filter) แล้วจึงนำไปเก็บไว้ในบ่อเก็บน้ำเพื่อปรับคุณสมบัติของน้ำ เช่น ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ความเค็ม (salinity) ความเป็นด่าง (alkalinity) และคุณสมบัติอื่นๆ ในบ่อคอนกรีตความจุขนาด 100 ตัน จำนวนทั้งหมด 40 บ่อ ในการปรับความเค็มของน้ำ

หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ มีบ่อน้ำจืด 2 บ่อ ที่ใช้สำหรับปรับความเค็มอยู่ด้านหลังของพื้นที่ปลอดเชื้อบ่อที่หนึ่งเป็นบ่อธรรมชาติที่พักน้ำไว้จนตกตะกอนแล้วจึงสูบน้ำส่วนใสด้านบนไปเก็บไว้ในบ่อเก็บน้ำจืดสะอาด ซึ่งหลังจากนั้นน้ำจืดจะกรองผ่านระบบกรองทรายแบบไหลย้อนขึ้นลงถังกรองทรายแรงดันสูงเช่นเดียวกับน้ำเค็มแล้วจึงนำไปผสมกับน้ำทะเลเพื่อปรับความเค็ม เมื่อได้น้ำที่มีคุณสมบัติเหาะสมแล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนความเข้มข้น 40 ppm. ให้ออกซิเจนจนหมดคลอรีน จึงสูบน้ำดังกล่าวไปฆ่าเชื้อด้วยโอโซนแล้วจึงนำไปเก็บไว้ในบ่อเก็บน้ำของแต่ละหน่วยงานภายในเขตปลอดเชื้อ และก่อนนำน้ำจากบ่อเก็บน้ำของแต่ละอาคารไปใช้จะผ่านการฆ่าเชื้ออีกครั้งหนึ่งด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือทุกวิธีต่อไปนี้

– แสงอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet: UV)
– การแยกโปรตีน (Foam fractionation)
– ถังกรองชีวภาพ (Biofiltration)

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของน้ำที่ใช้ในแต่ละหน่วยงาน บางหน่วยงานอาจมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวัน ตั้งแต่ 0-30% หรืออาจใช้การถ่ายน้ำแบบไหลผ่าน (flow-through) ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม น้ำทิ้งทั้งหมดที่ออกจากหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำจะถูกส่งผ่านท่อน้ำใต้ดินความยาวประมาณ 500 เมตรจากเขตปลอดเชื้อไปยังบ่อบำบัดน้ำหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งจะบำบัดน้ำด้วยวิธีธรรมชาติ คือ ให้น้ำผ่านบ่อ ปลา หอย และสาหร่ายตามลำดับ ทำการตรวจเช็คคุณภาพน้ำตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทิ้งและจึงปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติโดยค่า BOD (Biological Oxygen Demand) หลังผ่านกระบวนการบำบัดจะต่ำกว่า 20 พีพีเอ็ม ตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสัตว์น้ำแบบบูรณาการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ประกอบด้วยบุคลากรฝ่ายต่างๆ ได้แก่ ฝ่ายบริการ ฝ่ายการศึกษาและประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบัญชีการเงินและบุคคล ฝ่ายห้องปฏิบัติการ และฝ่ายซ่อมบำรุง อาคารและสาธารณูปโภคของหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ สามารถรองรับพนักงานได้สูงสุด 50 คน และมีที่พักให้บุคลากรภายนอกรวมถึงนักวิจัยจากสถาบันต่างๆ ทีมีงานวิจัยร่วมกับหน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำพักได้ประมาณ 10-20 คน

หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ มีความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ภายในกลุ่มนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง และสร้างความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง นำไปสู่การเลี้ยงกุ้งอย่างถูกหลักวิชาการ ทำให้มีผลกำไรจากการเลี้ยงมากขึ้น ทั้งยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงกุ้งอยู่เสมอ การบริการและการถ่ายทอดเทคโนโลยี

หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ จัดอบรมสัมมนาให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและบุคลากรในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ โดยจัดขึ้นทั้งที่หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ และฟาร์มเครือข่ายที่ให้ความร่วมมือ รวมถึงความร่วมมือกับเกษตรกรในท้องถิ่น

ผลงานเด่น ทีมวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้ง

– การตรวจสอบเชื้อไวรัสโดยใช้เทคโนโลยี DNA-based (Conventional, Nested and Real-time PCR)
– ระบบการเลี้ยงกุ้งปลอดเชื้อ (Biosecurity System)
– การผสมเทียมกุ้ง (Artificial Insemination)
– การจำแนกครอบครัวกุ้งโดยใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมาย (Microsatellite Markers) และวิธีการอื่นๆ
– การทำเครื่องหมาย EST (Expressed Sequence Tag)
– การจำแนกกุ้งรายตัว (PIT Tag RFID)

ทีมวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้ง

สรวิศ เผ่าทองศุข

นักวิจัยอาวุโส (หัวหน้าทีมวิจัย)

จุฑาทิพย์ คูเดช

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการอาวุโส

กฤษฎา สุขเจริญ

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

จรูญ อินทร์แก้ว

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

แสนสุข ลายพรหม

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

เกียรติศักดิ์ แก้วโลก

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

สุวันชัย ผอมกลัด

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

เกียรติศักดิ์ จันทร์เทพ

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

นายพนมกร ชัยทองสกุล

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

กิตติศักดิ์ ฟักทอง

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

จิตติมา ศิริวัฒโน

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

อภินัทธ์ ชูเพ็ง

เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

สุวรรณา สันติวิทยารมย์

เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป

จักรี วิชิตแย้ม

เจ้าหน้าที่บริหารอาคาร

ข้อมูลการติดต่อ

ทีมวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้ง
กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสัตว์น้ำแบบบูรณาการ

หน่วยปฏิบัติการร่วมด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ
กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสัตว์น้ำแบบบูรณาการ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ศช.)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
333 หมู่ที่ 5 ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84110
โทรศัพท์ 0 7727 0776-8
โทรสาร 0 7727 0779