ไบโอเทค สวทช. ร่วมงานประชุมนานาชาติ SynBio Consortium 2024: Solutions for a Better Tomorrow

(11 พ.ย. 67) ณ ห้องอีเทอร์นิตี้ บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ – สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) นำโดย นางสาววัชริน มีรอด รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายศึกษานโยบายและความปลอดภัยทางชีวภาพ ร่วมด้วย นักวิจัย บุคลากรฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานประชุมนานาชาติด้านชีววิทยาสังเคราะห์ในประเทศไทย ประจำปี 2567 หรือ SynBio Consortium 2024 ซึ่งจัดโดย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โครงการธัชวิทย์ ภายใต้หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มหาวิทยาลัยมหิดล และมูลนิธิบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (บวท.)

โดยงานดังกล่าวนับเป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และนักนวัตกรรมชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของชีววิทยาสังเคราะห์ รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ ส่งเสริมความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านชีววิทยาสังเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลก เช่น การพัฒนานวัตกรรมสุขภาพ เกษตรกรรมที่ยั่งยืน และพลังงานสะอาด เป็นต้น โดยได้รับเกียรติจาก นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. เป็นประธานเปิดงาน

นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการขับเคลื่อนแผนที่นำทางนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในด้านการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนา โดยแผนงานต่าง ๆ ภายใต้แผนที่นำทางฉบับนี้จะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศที่ช่วยสนับสนุนการประยุกต์ใช้ชีววิทยาสังเคราะห์ในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนด้านสุขภาพ และมีส่วนสำคัญต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ให้มุมมองของภาคเอกชนต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมบนฐานการประยุกต์ใช้ชีววิทยาสังเคราะห์ ว่า ชีววิทยาสังเคราะห์ เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญยิ่งในการพลิกโฉมความสามารถทางการแข่งขันของไทย โดยจะเข้ามาช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ ส.อ.ท. พร้อมจับมือกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์และนำมาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพที่ถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย มาสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำพาประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ด้าน ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ได้กล่าวต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับ SynBio Development Roadmap ว่า แผนที่นำทางนี้ไม่ใช่เพียงแผน แต่ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยการร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกและใช้จุดแข็งของประเทศไทย เชื่อว่าเราจะสามารถสร้างระบบนิเวศที่เข้มแข็ง สนับสนุนการประยุกต์ใช้ชีววิทยาสังเคราะห์ในหลากหลายอุตสาหกรรมได้

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ กรรมการบริหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้กล่าวว่าเครือข่าย SynBio หรือ SynBio Consortium ได้มีการก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2565 ด้วยวิสัยทัศน์ “ชีววิทยาสังเคราะห์สร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG)” โดย ส.อ.ท. เป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายที่ร่วมสนับสนุนการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ไปสู่เชิงพาณิชย์ ผ่านการเสนอแนะ ผลักดัน และร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้านกฎระเบียบ มาตรการและกลไกที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศสนับสนุนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมซึ่งมีฐานมาจากเทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์และเทคโนโลยีเกี่ยวเนื่อง ซึ่งความร่วมมือภายใต้เครือข่ายนี้ จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ และทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านชีววิทยาสังเคราะห์ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การประชุมประกอบด้วยหัวข้อเสวนา 5 เรื่อง ได้แก่ (1) ความท้าทายและกฎระเบียบในการแก้ไขยีนในพืช แลกเปลี่ยนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขยีน (Gene Editing: GEd) ในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะกฎระเบียบใหม่ของไทย นำเสนอกรณีตัวอย่างจากธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี GEd ในสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล เพื่อให้มุมมองระหว่างประเทศ อีกทั้งมีการอัปเดตสถานะการวิจัย GEd ในไทย เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายที่มีอยู่ (2) การนำงานวิจัยไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงข้อเสนอแนะ ความท้าทาย และแนวทางการส่งเสริมงานวิจัยด้าน SynBio จากห้องปฏิบัติการไปสู่ตลาด บทบาทของ Accelerator และความก้าวหน้าในภูมิภาค อภิปรายข้อดี ข้อเสียของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม (3) การวิจัยอย่างรับผิดชอบในชีววิทยาสังเคราะห์ มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมการวิจัยอย่างรับผิดชอบ โดยเน้นจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีกรณีศึกษาเพื่อเน้นปัญหาจริยธรรมในการใช้งานเทคโนโลยีชีวภาพที่ผ่านมา (4) ความสำคัญของมาตรฐานทางเทคนิคในชีววิทยาสังเคราะห์ มุ่งเน้นบทบาทของมาตรฐานในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าในสาขานี้ โดยพิจารณาความท้าทายในการจัดการข้อมูลในวิทยาศาสตร์ชีวภาพและเทคโนโลยีชีวภาพ เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์และผู้กำหนดนโยบาย และ (5) โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาแรงงานทักษะสูง สำหรับการขยายขนาดในระดับอุตสาหกรรม เป็นการพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคลากรที่มีความสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาชีววิทยาสังเคราะห์ มีการนำเสนอเกี่ยวกับเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) และการศึกษาภูมิทัศน์ชีววิทยาสังเคราะห์ เน้นถึงสถานะและศักยภาพของสาขานี้ในประเทศ

ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้นำเสนอมุมมองที่มีประโยชน์สำหรับความก้าวหน้าด้านชีววิทยาสังเคราะห์ในอนาคต ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ และสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ชีววิทยาสังเคราะห์ในประเทศไทยต่อไป